จุดประสงค์ของการพัฒนากลยุทธ์ ก็คือ พิจารณากลยุทธ์ต่าง ๆ ที่สามารถเพิ่มยอดขายและกำไรให้ดีขึ้น เมื่อผู้จัดการสินค้าพอใจกับกลยุทธ์ใหม่แล้ว เขาก็จะต้องวางแผนการตลาดโดยละเอียดสำหรับปีต่อไป ก่อนจะพิจารณารายละเอียดจริง ๆ ผู้จัดการสินค้าอาจจะต้องการทบทวนหรือแลกเปลี่ยนความคิดเป็นกลยุทธ์ทั้งหมดกับผู้อื่นในบริษัทก่อน โดยเฉพาะควรจะพบปะกับแผนกจัดซื้อและแผนกผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถซื้อวัตถุดิบให้เพียงพอเพื่อผลิตสินค้าให้ได้ตามจำนวนที่วางแผนไว้ และควรจะได้ปรึกษากับผู้จัดการแผนกขายเพื่อให้แน่ใจว่า เขาจะช่วยในการวางแผนพนักงานขายได้อย่างเพียงพอ และอาจจะต้องสอบถามพวกตัวกลางเพื่อให้แน่ใจว่าจะประสานงานกันได้
เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว ก็จะต้องหารายละเอียดรายได้และแผนงานสำหรับปีต่อไป สมมุติว่าตั้งงบประมาณในการโฆษณาไว้ว่า 3 แสนบาท ขั้นต่อไปก็จะต้องกำหนดรายละเอียดว่าใจแต่ละเดือนควรจะใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด ใช้สื่อโฆษณาอะไร และเช่นเดียวกันกับค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขาย ในการทำแผนงาน อาจจะทำเป็นตาราง โดยแบ่งเป็น 12 เดือน หรือ 52 สัปดาห์ ตามแนวตั้งสำหรับแต่ละปี และตามแนวนอน จะเป็นกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ แผนงานนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ภายในปีนี้ ถ้ามีปัญหาหรือมีโอกาสอื่น ๆ ที่ดีกว่าขึ้นมา
จากแผนงานนี้จะทำให้สามารถประมาณระดับยอดขาย และกำไรที่คาดไว้ตามรายไตรมาสหรืออื่น ๆ ซึ่งตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่คอยควบคุม เมื่อจบแต่ละช่วง เขาก็จะนำยอดขายจริงมาเปรียบเทียบกับยอดขายที่คาดไว้ และรายจ่ายจริงเปรียบเทียบกับรายจ่ายที่ตั้งงบประมาณไว้ เพื่อดูว่าแผนงานนั้นดีหรือไม่ และจะได้ทำการแก้ไขต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น